พิมพ์


พระราชบัญญัติพิกัดอัตราภาคหลวงแร่ พ.ศ. 2509


ฉบับเต็ม คลิกที่นี่


   พระราชบัญญัติฉบับนี้มีบทบัญญัติที่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมทางทะเล คือ

   มาตรา 4 การเรียกเก็บค่าภาคหลวงแร่ดีบุกให้เรียกเก็บจากราคาโลหะดีบุกดังนี้

     (1) ถ้าราคาตลาดของโลหะดีบุกในแร่ต่อ 60 กิโลกรัม เกินกว่าสามพันบาท ให้เรียกเก็บในอัตราที่กำหนดในกฎกระทรวง ซึ่งต้องกำหนดเป็นขั้น ๆ และขั้นสูงสุดต้องไม่เกินกว่าร้อยละหกสิบของราคาตลาดที่เกินกว่าสามพันบาท

     (2) ถ้าราคาตลาดของโลหะดีบุกในแร่ต่อ 60 กิโลกรัม ไม่เกินสามพันบาท ให้ยกเว้นไม่ต้องเรียกเก็บค่าภาคหลวง


   มาตรา 5 การเรียกเก็บค่าภาคหลวงแร่ชนิดที่มีทังสติกออกไซด์ ให้เรียกเก็บตามอัตราที่กำหนดในกฎกระทรวง แต่ต้องไม่เกินกว่าอัตราร้อยละยี่สิบของราคาตลาด


   มาตรา 6 การเรียกเก็บค่าภาคหลวงแร่อื่นๆ ให้เรียกเก็บตามชนิด สภาพร้อยละของโลหะหรือของสารประกอบในแร่ หรือลักษณะพิเศษอย่างใดอย่างหนึ่งตามอัตราที่กำหนดในกฎกระทรวง แต่ต้องไม่เกินกว่าอัตราร้อยละยี่สิบของราคาตลาด

   ในกรณีที่รัฐมนตรีเห็นว่าการเรียกเก็บค่าภาคหลวงแร่สำหรับแร่บางชนิดตามอัตราร้อยละของราคาตลาดตามวรรคหนึ่งไม่เหมาะสม ให้รัฐมนตรีกำหนดการเรียกเก็บค่าภาคหลวงแร่โดยวิธีประเมินหรือวิธีอื่นตามหลักเกณฑ์ วิธีการ เงื่อนไข และอัตราที่กำหนดในกฎกระทรวง แต่ทั้งนี้ต้องไม่เกินกว่าอัตราร้อยละสามสิบของราคาตลาด


   มาตรา 7 สภาพร้อยละของโลหะหรือของสารประกอบในแร่หรือลักษณะพิเศษอย่างใดอย่างหนึ่ง ของแร่แต่ละชนิด ที่ใช้เป็นเกณฑ์ในการเรียกเก็บค่าภาคหลวงแร่ วิธีการกำหนดราคาตลาด การใช้อัตราแลกเปลี่ยนเงินในการคำนวณราคาตลาด และวิธีการควบคุมการชำระค่าภาคหลวงแร่ ให้กำหนดโดยกฎกระทรวง